เมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) สิงคโปร์สั่งเพิ่มภาษีซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย มีผลตั้งแต่วันนี้ (27 เม.ย.) เป็นต้นไป หลังตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศร้อนแรงจากแรงหนุนเป็นผู้ซื้อจากต่างประเทศที่สนใจซื้อสังหาริมทรัพย์ในประเทศเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้
ภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้จะกระทบผู้ซื้อจากต่างประเทศมากที่สุด โดยอากรที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเพิ่มเพิ่มเติม (ABSD) หรือภาษีสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ได้ถูกเพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก 30% เป็น 60%
สิงคโปร์แขวนคอประหารชีวิตนักโทษ ลอบนำกัญชา 1 กก.เข้าประเทศ
ป.5 เราทำอะไรกันอยู่? เด็ก ป.5 คนนี้ สมัครเป็น “ผู้อำนวยการโรงเรียน”
เบื่อแล้วนักการเมืองแก่! ญี่ปุ่นเลือกนักการเมืองรุ่นใหม่มาทำงานมากขึ้น
นั่นหมายความว่า ผู้ซื้อต่างชาติที่ต้องการซื้อบ้านมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (51 ล้านบาท) หลังจากนี้จะต้องจ่ายภาษี ABSD เป็นเงินถึง 1.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (30 ล้านบาท) รวมแล้วถ้าอยากได้บ้านหลังนี้ในสิงคโปร์จะต้องเสียเงินทั้งสิ้นกว่า 81 ล้านบาท
ทางการสิงคโปร์ระบุว่า “ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของคนในประเทศมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษอยู่แล้ว และยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศในตลาดที่อยู่อาศัยของเราอีกด้วย”
และเสริมว่า ”หากไม่ตรวจสอบควบคุมให้ดี ราคาอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์อาจพุ่งนำหน้าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และมีความเสี่ยงที่ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับรายได้”
หลังจากที่สิงคโปร์ปลดมาตรการโควิด-19 และเปิดประเทศ มหาเศรษฐีชาวเอเชียจำนวนมากพากันหลั่งไหลเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์
มาร์ก ยิป ซีอีโอของบริษัทตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ Huttons Asia กล่าวว่า “ชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาฯ ในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 60% ในเดือนมีนาคม 2023 … บางส่วนเลือกสิงคโปร์เป็นที่หลบภัยเช่นสิงคโปร์จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สื่อท้องถิ่นรายงานโดยอ้างโฆษกของ New World Wealth ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองความมั่งคั่ง โดยระบุว่า ในปี 2023 นี้ จะมีเศรษฐีมากถึง 3,500 คนกลายเป็นพลเมืองสิงคโปร์ โดยส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยออกแถลงการณ์โต้แย้ง โดยบอกว่า “การยื่นขอสัญชาติสิงคโปร์ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2023 ยังไม่ได้รับการสรุป คำแถลงนี้สร้างความเข้าใจผิดอย่างมาก และไม่มีมูลฐานที่น่าเชื่อถือ … การมีรายได้สุทธิสูงไม่ได้รับประกันว่าจะเป็นพลเมืองสิงคโปร์ได้”
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า จำนวนบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อบริหารความมั่งคั่งให้เศรษฐีเอเชียได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการประมาณการล่าสุดจากธนาคารกลางแห่งสิงคโปร์ระบุว่า ณ สิ้นปี 2020 มีบริษัทลักษณะนี้ประมาณ 400 แห่ง แต่เพิ่มเป็น 700 แห่งหลังสิ้นปี 2021คำพูดจาก เว็บสล็อตแท้
ในส่วนของชาวสิงคโปร์ แม้จะไม่ถูกขึ้นภาษีสูงเท่าชาวต่างชาติ แต่ก็มาการปรับขึ้นเช่นกัน โดย ABSD สำหรับชาวสิงคโปร์ที่ซื้อที่อยู่อาศัยแห่งที่สอง จะเพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 20% ขณะที่ผู้อยู่อาศัยถาวรที่ไม่ใช่พลเมือง (Noncitizen Permanent Resident) อัตราภาษีเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 30%
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า การปรับขึ้นภาษีนี้จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ลดความร้อนแรงลงได้หรือไม่ แต่คาดว่าในระยะสั้น จะชะลอการซื้อเพื่อขายเก็งกำไรได้สำหรับอสังหาริมทรัพย์ระดับบนที่ชาวต่างชาติจะเข้ามาซื้อ
เรียบเรียงจาก Nikkei Asia
ภาพจาก AFP